เทพธิดา ปลาร้า และความเป็นมาของตำนานใต้ดินแห่งนี้
“เทพธิดา ปลาร้า และความเป็นมาของตำนานใต้ดินแห่งนี้”
แต่งโดย_ AI
เรื่องราวของเทพธิดา ปลาร้า และความเป็นมาของตำนานใต้ดินแห่งนี้เป็นเรื่องราวที่มีความสนุกสนานและน่าสนใจมากที่นักประวัติศาสตร์และนักเล่าเรื่องราวยังพูดถึงกันอยู่จนถึงปัจจุบัน นี่เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเทพธิดาและปลาร้าที่มีความสำคัญในวัฒนธรรมไทย และยังเป็นตำนานที่เล่าถึงเส้นทางต่าง ๆ ในการไปยังชายฝั่งตะวันตกของประเทศไทย
ตำนานเทพธิดา ปลาร้าเกิดขึ้นในสมัยล้านนา ระหว่างรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการพัฒนาและค้นพบแหล่งที่ดินใหม่ และสร้างเมืองใหม่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งยังมีการก่อสร้างอาคารปูนใหญ่ ๆ เพื่อใช้เป็นสำนักงานและที่พักอาศัย ในสมัยนั้น เทพธิดา ปลาร้า กลับเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็รู้จัก เพราะเธอถูกสร้างขึ้นมาให้มีซึ่งเป็นขุนพลเทพธิดา โดยมีหน้าที่จะคอยดูแลความเป็นพระคุณของคนที่ไปปลูกพืช สร้างเมืองใหม่ และวิจัยแหล่งที่ดินใหม่
ตำนานของปลาร้านั้นมีความเชื่อถือและเป็นที่สองกว่าเทพธิดา เพราะเธอถือเป็นเทพีสาวคนหนึ่งที่คนไทยกลับไว้วางใจ โดยอาจจะมาจากความเชื่อในเทพสาวปลาร้าที่เป็นเทพีที่รักในการเล่นและจัดงาน จึงทำให้มีการกลับมาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเธออีกครั้งหนึ่ง โดยพบว่ามีบางส่วนของประชากรเชื่อว่าเทพธิดา ปลาร้าต้องการที่จะตระเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการประจำปีใหม่และนแม่น้ำ ซึ่งจะทำให้คนไทยเจริญรุ่งเรือง จึงมีการจัดงานใหญ่ ๆ ในชะด่านปลาร้า สมัยนั้นเป็นเวลาที่เกิดการขายและซื้อของในการเลี้ยงชีพอย่างหนาแน่น
ตำนานใต้ดินนี้ค่อนข้างเป็นที่รู้จักในช่วงสมัยนี้ว่าเป็นตำนานอย่างหนึ่งที่มีลักษณะเชิงเรื่องเล่า และมีขนาดใหญ่ ซึ่งภายใต้บ้านหินและดินเหนียวๆ มีเนื้อความเท่าไหร่ก็ไม่รู้ โดยผู้คนนิยมเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางลึกลับไปยังอุโมงค์ใต้ดิน กล่าวถึงผู้อาศัยในอุโมงค์ขนาดใหญ่ที่นี้ที่คบคนกันเช่นเพื่อนและญาติ ไม่ว่าจะเป็นคนของกลุ่มเชื้อชาติดี กลุ่มเชื้อชาติแผ่นดิน หรือกลุ่มเชื้อชาติชนบท ทุกคนมีชื่อเหมือนกันที่จะเข้าไปอยู่ในความคุ้มครองของเทพธิดาปลาร้า
ขณะที่สมัยมากมายเด็กหนุ่มสาวยังคงเป็นผู้ชื่นชอบกับตำนานของเทพธิดาปลาร้า ก็มีงานจัดให้เพลงดนตรีเทศกาลปลาร้า ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นทุกวันจันทร์หลังทานอาหารกลางวันในเดือนสิงหาคมและทรงมีชื่อเสียงมาช่วงหลายปีแล้ว ในการจัดงานนี้จะมีการขึ้นอนหินและกินอาหารใต้ดินพร้อมกับการเล่นเพลงดนตรี ทั้งสุดยอดของนักแสดงมืออาชีพและนักขี่ม้า การจัดงานนี้มีการเล่าเรื่องของเทพธิดาปลาร้าและบทเพลงสดใส เช่น Er Jom Chan Bpai คือเพลงที่บอกเรื่องของเทพธิดาปลาร้าที่เดินทางไปยังทะเลไทย
นอกจากสำหรับงานประเพณีต่าง ๆ ในเดือนสิงหาคมในชะด่านปลาร้า การท่องเที่ยวช่วงนี้ยังมีความน่าสนใจในการเดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์ใต้ดินปลาร้า ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของชะด่านปลาร้า ภายในพิพิธภัณฑ์นี้จะแสดงวัตถุโบราณและชิ้นส่วนโบราณกาลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทพธิดาปลาร้าและความเป็นมาของตำนานใต้ดินในสมัยก่อน นอกจากนี้ยังมีการโชว์แสดงฉายภาพซึ่งงดงามของช่วงก่อนและช่วงปัจจุบัน โดยสามารถเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของชะด่านปลาร้าและแนวโน้มของการพัฒนาของเมืองในบริเวณนี้ได้
สำหรับผู้ที่ต้องการตกแต่งบ้านแบบโมเดิร์นในแนวเรตโรมานติกเพื่อเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเทพธิดาปลาร้าและความเป็นมาของตำนานใต้ดินแห่งนี้ได้อีกด้วย โดยการนำมาใช้เป็นของแต่งบ้านหรือเสื้อผ้าเซ็ทสำหรับไปเที่ยวช่วงชั่วคราวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับตำนานใต้ดินแห่งนี้ในแต่ละสมัย มีการตำราในรูปแบบต่าง ๆ อย่างเช่นนิทานต่าง ๆ และรายงานประวัติศาสตร์ของช่วงนั้น ทั้งสื่อออนไลน์และสื่อพิมพ์ ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดการท่องเที่ยวและการสร้างสมาคมท้องถิ่นที่สอดคล้องกับเรื่องราวสำคัญของชะด่านปลาร้า
ในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสื่อสารระหว่างประชากร จึงมีช่องทางออนไลน์ ซึ่งจะตอบสนองความต้องการของผู้ที่ต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับตำนานใต้ดินแห่งนี้ โดยมีหลายช่องทางให้เลือกในการเรียนรู้เทคนิคการจัดการท่องเที่ยวและรูปแบบกิจกรรมสำหรับคนไทยในปัจจุบันที่สามารถเพิ่มความท้าทายให้กับตนเองและเพื่อความสนุกสนานและลงมือทำสิ่งสำคัญที่เกี่ยวข้องกับตำนานใต้ดินนี้ในแต่ละวัน
โดยรวมแล้ว เทพธิดา ปลาร้า และความเป็นมาของตำนานใต้ดินแห่งนี้มีความสำคัญและเป็นเอกลักษณ์ที่ด้านของชะด่านปลาร้าบนภูมิภาคตะวันตกของประเทศไทย โดยตำนานนี้อาจจะเป็นท่านต่อการตำรวจการท่องเที่ยวในช่วงไม่ว่ากระทั่งวันที่ ต้องการเรียนรู้เรื่องชะด่านปลาร้าและตำนานใต้ดินนี้โดยละเอียดและต้องการที่จะเข้าใจถึงความเป็นมาของประเทศไทยอย่างแท้จริง การท่องเที่ยวไปยังชะด่านปลาร้าและพิพิธภัณฑ์ใต้ดินปลาร้าจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการรับรู้หนึ่งในตำนานสำคัญของประเทศไทยทั้งหมด