เลือดเจ้าพระยาเป็นสำนวนที่ใช้เรียกการต่อสู้และการแย่งชิงอำนาจในประวัติศาสตร์ไทย และเกิดขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมื่อตอนที่ 9 นั้น มีเหตุการณ์ที่เรียกว่า จอมหมากหนักหนา เป็นเหตุให้เลือดเจ้าพระยาต่อสู้กันอย่างรุนแรงเพื่อแย่งชิงอำนาจ ในบทความนี้จะพูดถึงเหตุการณ์ จอมหมากหนักหนา ที่เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวของ เลือดเจ้าพระยาตอนที่ 9
เลือดเจ้าพระยาตอนที่ 9 เป็นเรื่องราวที่สืบต่อมาจากเหตุการณ์ตอนที่ 8 ซึ่งเป็นการแต่งงานของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ หน่วยศึกษาราชภัฏสวนสุนันทากลับมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน อำนาจและโอกาสในการควบคุมอำนาจได้เกิดขึ้นอีกครั้ง
เมื่อในปี พ.ศ. 2411 เกิดลูกชายแก่พระเจ้าตากสินฯ ที่ได้รับการตั้งชื่อว่า สมเด็จพระเจ้ามัลลิกาภิเษก จนกระทั่งพระองค์หย่ากับพระธิดา พระเนตร กลับเข้าพรรคฟ้าในสมัยยังสมัยประวัติศาสตร์ไทย
ที่มาของ “จอมหมากหนักหนา”
เมื่อเสร็จสิ้นพิธีแต่งงานนั้น ไม่นานหลังนั้น มีเหตุการณ์ที่สำคัญเกิดขึ้น นั่นคือการต้องการควบคุมอำนาจของจอมหมากทั้งสองฝ่าย ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นตนเดียวกับพลเรือนอาวุโสที่ไม่พอใจกับการเผยแพร่ราชบัญญัติเลือดเจ้าพระยา
สิ่งที่ใช้ในการแข่งขันคือ พลเมืองย่ำแย่ดเป็นกลุ่มเพื่อทวงอำนาจ และก็มีการคัดค้านระหว่างคนในคู่สวมสายุทธ ฝ่ายจอมหมากกับกลุ่มผู้ต้องการนำอำนาจที่ถูกต้องกลับมาเป็นของตนเอง จนเกิดการต่อสู้อย่างรุนแรงขึ้นมา
มีข่าวลือว่า ราชการท็อปเม็ดเลิน เป็นคนในฝ่ายของตนเอง จึงได้รับการหมุนหน้าให้มาประกบกับเหตุการณ์เหล่านี้ แต่เมื่อเขาได้เห็นว่าคนที่อยู่ในฝ่ายของตนนี้มีปัญหาควบคุมเอาไว้เอง เขาก็จึงเลือกที่จะทำในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับรัฐบาลและประชาชน
เหตุการณ์เหล่านี้เป็นเป้าหมายของสื่อและสุขภาพชุมชน ทำให้มีคนตาย คนบาดเจ็บและเกิดความเสียหายในหลายด้านโดยไม่จำกัด เป็นเหตุให้เลือดเจ้าพระยาตลาดสี่เหลี่ยมอยู่เสียหายด้วย
ภายหลังจากเหตุการณ์นี้ พระเจ้าตากสินโดยสารมาคุยกับผู้นำกลุ่มของตัวเองและอนุญาตให้มีการสร้างสถานการณ์ที่เป็นกันเองได้รับการกล่าวหาว่าเป็นผู้ชักชวนและนำบทบาทส่วนใหญ่ในการสร้างปัญหาเหตุการณ์นี้
ความสำคัญของ “จอมหมากหนักหนา”
การต่อสู้อย่างรุนแรงเพื่อแย่งชิงอำนาจว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ไทยมากมาย แต่เหตุการณ์เหล่านี้คือความโหดเหี้ยมที่สุด และที่สำคัญที่สุดก็คือการดำเนินการที่ไม่เหมาะสมของประเทศเมื่อเทียบกับการแข่งขันต่อสู้และแก้ไขปัญหา
ภายหลังการเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ ทั้งกลุ่มผู้นำ และพระเจ้าตากสินได้รับการที่ดีขึ้นในการวิเคราะห์สภาพการเมือง ซึ่งจะทำให้ไม่มีการอยู่ในสภาพนี้อีกต่อไป
ส่วนมากหลายคนเคยเขียนเรื่องราวเหตุการณ์เหล่านี้ต่อให้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญและน่าสนใจอยู่เสมอ ซึ่งบทความนี้ก็เป็นแสดงถึงเรื่องราวของจอมหมากหนักหนา ที่เป็นส่วนหนึ่งของเลือดเจ้าพระยาตอนที่ 9 และแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ไทยเมื่อมีเรื่องสำคัญเหล่านี้เกิดขึ้นในอดีตเราจะได้เรียนรู้จากเรื่องราวที่ดีต่ออนาคตของชาติและประเทศ
